หลากหลายคุณค่าของอาหารทะเลเพื่อการบริโภค

อาหารทะเล หรือ ซีฟู้ด

เป็นอาหารจำพวกกุ้ง ปู ปลา หอย นำมาลวก นึ่ง ปิ้ง ย่าง ฯลฯ ปัจจุบันมีการเปิดร้านขายอยู่ทั่วไป มีทั้งเหล่า ร้านใหญ่ ร้านกลาง ร้านเล็ก หรือแม้แต่ร้านรถเข็นก็ทำได้ขายได้ อย่างไรก็ดี การจะประสบความสำเร็จได้นั้น จะร้านแบบไหนก็ล้วนต้องมีหลักการทำธุรกิจ-หลักการทำอาชีพที่เหมาะสม การปรุงอาหารทะเลนั้นโดยส่วนใหญ่แล้วต้องนำวัตถุดิบมาล้างให้สะอาดก่อน พักไว้สะเด็ดน้ำ ถ้าต้องการเผา ปิ้ง ย่าง ควรใช้เตาถ่านที่ให้ความร้อนกำลังดีและร้อนเสมอทั่วกัน โดยต้องหมั่นพลิกกลับไปกลับมา ให้แค่พอสุก พอมีกลิ่นหอม ก็เป็นอันใช้ได้ ส่วนการลวก เช่น หอยแครงลวก การลวกต้องลวกในน้ำเดือด ลวกแค่พอสุกแล้วนำขึ้นมาจุ่มในน้ำเย็น จากนั้นเทใส่ภาชนะ ก็เป็นอันใช้ได้ พร้อมจัดเสิร์ฟให้กับลูกค้า

อาหารทะเลนอกจากจะเป็นโปรตีนชั้นดีแล้ว ยังมีความพิเศษตรงที่มีแร่ธาตุสำคัญอย่าง ไอโอดีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก รวมถึงวิตามินบี 1 ,บี 2 และบี 6 อีกด้วย ในอาหารทะเลมีไอโอดีนอยู่ถึง 54 ไมโครกรัมต่ออาหารที่กินได้ 100 กรัม ซีฟู้ดจึงเป็นแหล่งไอโอดีนที่สำคัญของทุกๆ คน แม้ว่าปริมาณแร่ธาตุที่ชื่อว่าไอโอดีนที่ร่างกายต้องการจะน้อยมาก แต่ถ้าเกิดขาดได้ไม่เพียงพอขึ้นมา ก็จะทำให้เกิดปัญหากับสุขภาพได้อย่างมากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะทำให้เกิดโรคคอพอก สมองทำงานไม่ปกติ มีพัฒนาการและเรียนรู้ช้า หรือที่เรียกว่า “โรคเอ๋อ” และถ้าขณะอุ้มท้องอยู่แม่ได้รับไอโอดีนน้อย

แม้ว่าอาหารทะเลเป็นอาหารที่มีคุณค่า แต่ก็มีพิษภัยเช่นเดียวกับอาหารชนิดอื่น ในแง่ของโลหะหนักนั้นก็คงต้องเลือกบริโภคสักหน่อย ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคหอย เพราะว่าเป็นแหล่งสะสมโลหะหนักหลายชนิด โดยสารพิษเหล่านี้จะไปสะสมที่ระบบย่อยอาหาร ซึ่งเป็นส่วนที่คนกินเข้าไปและไม่ควรบริโภคสัตว์ประเภทกันซ้ำซาก เพื่อลดการสะสมสารพิษ ในแง่ของขี้ปลาวาฬนั้นผู้บริโภคต้องหมั่นฟังข่าวคราวจากสื่อต่างๆ เช่น วิทยุ ว่ามีขี้ปลาวาฬเกิดขึ้นในช่วงใด บริเวณใด ก็ควรงดบริโภคอาหารทะเลในช่วงนั้น โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคมเป็นช่วงที่มีอุณหภูมิของน้ำทะเลเหมาะสม มีแพลงก์ตอนที่ทำให้หอยเป็นพิษมาก อาจแก้ไขได้โดยนำไปแช่ด่าง

การเลือกซื้อและการถนอมอาหารทะเล

– เลือกซื้ออาหารจากแหล่งที่รู้จักหรือมีชื่อเสียงดี
– ให้เลือกซื้อจากร้านที่อาหารแช่ในตู้เย็นหรือใส่น้ำแข็งแช่เย็น
– หลังจากซื้อแล้วรีบเก็บในตู้เย็นในที่เก็บเนื้อสัตว์
– เพื่อความสดของอาหารให้ใช้ให้หมดใน 3 วัน
– หากซื้ออาหารสดมีชีวิตให้ทิ้งกุ้ง ปูหรือหอยต่างๆเช่นหอยกาบ หอยแมลงภู่ที่ตาย อย่าเก็บในถุงเพราะสัตว์จะหายใจไม่ออก ให้เก็บสัตว์ไว้โดยคลุมด้วยผ้าเปียก เมื่อจะนำมาปรุงตัวที่ตายให้ทิ้ง
– เมื่อจะนำอาหารมาปรุงให้ละลายน้ำแข็งในตู้เย็นหรือให้น้ำเย็นไหลผ่าน ไม่ควรตั้งทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง
– การหมักอาหารทะเลให้หมักในตู้เย็น และน้ำหมักให้เททิ้ง
– อย่าให้อาหารทะเลที่ปรุงแล้วมาปนเปื้อนกับอาหารที่ยังไม่ได้ปรุง
– ผู้ที่ไม่แน่ใจสภาพภูมิคุ้มกันของตัวเองหรือมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอเช่นโรคตับ โรคไต โรคเอดส์ ให้รับประทานอาหารที่ปรุงสุกแล้วเท่านั้น
– อาหารสลัดควรเก็บในตู้เย็นก่อนที่เสริพให้รับประทาน

This entry was posted in อินเตอร์เน็ต and tagged , , . Bookmark the permalink.

Comments are closed.